Tuesday, September 19, 2006

ประกาศคณะปฏิรูปฯ (1-15)

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice01.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 1

เมื่อเวลา 23.57 น. วันที่ 19 กันยายน 2549 พล.ต.ประพาศ ศกุนตนาค โฆษกคณะปฏิรูปการปกครองฯ ประกาศแถลงการณ์
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 1 ว่า

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 1
.....................................................................

ด้วยเป็นที่ปรากฎการณ์แน่ชัดว่า การบริหารราชการแผ่นดินโดยรัฐบาลรักษาการปัจจุบัน ได้ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งแบ่งฝ่าย สลายความรู้รักสามัคคีของชนในชาติ อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย ต่างฝ่ายต่างมุ่งหวังเอาชนะด้วยวิธีการหลากหลายรูปแบบ และมีแนวโน้มนับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยประชาชนส่วนใหญ่เคลือบแคลงสงสัยการบริหารราชการแผ่นดิน อันส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง หน่วยงาน องค์กรอิสระถูกครอบงำ ทางการเมือง ไม่สามารถสนองตอบเจตนารมณ์ตามที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทำให้การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเกิดปัญหาและอุปสรรคหลายประการ ตลอดจนหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แห่งองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพเทิดทูนของปวงชนชาวไทยอยู่บ่อยครั้ง แม้หลายภาคส่วนของสังคมจะได้พยายามประนีประนอม คลี่คลายสถานการณ์มาโดยต่อเนื่องแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งยุติลงได้

ดังนั้นคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ขอยืนยันว่า ไม่มีเจตนาเข้ามาเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินเสียเอง แต่จะได้คืนอำนาจการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขกลับคืนสู่ปวงชนชาวไทยโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขและความมั่นคงของชาติ รวมทั้งเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพยิ่งของปวงชนชาวไทยทุกคน

ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน. พุทธศักราช 2549 เวลา 23.50 น.

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice02.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 2

วันที่ 20 กันยายน 2549 โฆษก คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 2 ว่า

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 2
เรื่อง ห้ามการเคลื่อนย้ายกำลังทหาร
.....................................................................

ให้ทหารทุกนายไปรายงานตัว ณ ต้นสังกัด และห้ามเคลื่อนย้ายกำลังออกจากที่ตั้งปกติโดยเด็ดขาด ถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สั่ง ณ วันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(ประกาศ ณ เวลา 00.27 น)

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice03.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 3

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 3
.....................................................................

ตามที่ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศ เรียบร้อยแล้วนั้น

เพื่อความสงบเรียบร้อยในการปกครองประเทศ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข จึงให้

1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 สิ้นสุดลง
2. วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญ สิ้นสุดลงพร้อมกับรัฐธรรมนูญ
3. องคมนตรี คงดำรงตำแหน่ง และปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
4. ศาลทั้งหลาย นอกจากศาลรัฐธรรมนูญ คงมีอำนาจในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมาย และตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice04.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 4

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 4
เรื่อง อำนาจบริหารราชการแผ่นดิน
.....................................................................

โดยที่ได้มีกฎหมายบางฉบับ ถึงอำนาจหน้าที่ ของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ในอันที่จะปฏิบัติตามกฎหมายได้ และเพื่อประโยชน์แก่การปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้บรรดาอำนาจหน้าที่ ที่กฎหมายได้บัญญัติว่า เป็นอำนาจหน้าที่ ของนายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผู้ซึ่งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้รับมอบหมาย

ข้อ 2 ระหว่างที่ยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ให้บรรดาอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีกระทรวงใดก็ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของปลัดกระทรวงนั้น เว้นแต่หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ประกาศ ณ วันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice05.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 5

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 5
เรื่อง การให้นิสิตนักศึกษามีส่วนร่วมในทางการเมือง
.....................................................................

ด้วยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้เห็นความสำคัญของนิสิตนักศึกษาปัญญาชนต่อชาติบ้านเมือง ซึ่งเป็นพลังบริสุทธิ์ ดังนั้นคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เห็นควรที่จะให้นิสิตนักศึกษาได้มีส่วนร่วมในทางการเมือง ในวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีขึ้นในเร็ววันนี้ เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ปราศจากการซื้อเสียง และอิทธิพลใดๆ และหากนิสิตนักศึกษาท่านใด มีแนวความคิดในการพัฒนาการเมืองไทยในนระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นแล้ว ขอให้ส่งความเห็นไปที่สำนักงาน เลขานุการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน. พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice06.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 6

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 6
เรื่อง การแก้ไขความเดือดร้อนของบรรดาพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ชาวนาชาวไร่
.....................................................................

ด้วยทราบว่า บรรดาพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ชาวนา ชาวไร่ทั้งหลาย ได้รับความเดือดร้อนเกี่ยวกับปัญหาการครองชีพ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้รับทราบความเดือดร้อนของ พี่น้องผู้ใช้แรงงาน ชาวนา ชาวไร่ ดังกล่าว ด้วยความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ เป็นอย่างยิ่ง และกำลังพิจารณาให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าวอยู่แล้ว

แต่เนื่องจากขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อยของประเทศ ให้คืนสู่สภาวะปกติ จึงขอให้พี่น้องที่ใช้แรงงาน ชาวนา ชาวไร่ ทั้งหลายอยู่ในความสงบ อย่าได้เคลื่อนไหวเรียกร้องใด ๆ ในขณะนี้ เพราะอาจเปิดโอกาสให้บุคคลผู้ไม่หวังดี ต่อประเทศชาติบ้านเมืองกระทำการ ก่อความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น

สำหรับปัญหาความเดือดร้อนของบรรดาพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ชาวนา ชาวไร่ ดังกล่าว คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะได้ร่วมกันพิจารณา หาแนวทางที่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของ บรรดาพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ชาวนา ชาวไร่ ทั้งหลาย โดยเร็วต่อไป

ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice07.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 7

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 7
เรื่อง การห้ามชุมนุมทางการเมือง
.....................................................................

ตามที่ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน พุทธศักราช 2549 เวลา 21.05 น.เป็นต้นไปแล้วนั้น

เพื่อมิให้เกิดปัญหา และอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ในระหว่างประกาศกฎอัยการศึก

จึงห้ามมิให้มั่วสุม ประชุมทางการเมือง ณ ที่ใด ๆ ที่มีจำนวน ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(ประกาศ เมื่อเวลา 10.48 น.)

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice08.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 8

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 8
เรื่อง ห้ามกักตุนสินค้า
.....................................................................

เนื่องด้วยในการที่ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้เข้ายึดอำนาจในการปกครองในครั้งนี้ มุ่งหวังให้บ้านเมือง มีความสงบเรียบร้อย มีความเจริญรุ่งเรืองและประชาชนได้รับความเป็นธรรม ในการซื้อขายสินค้าเป็นสำคัญ จึงห้ามมิให้ผู้ใดกักตุนสินค้า หรือขึ้นราคาสินค้าทุกประเภท

ถ้าหากผู้ใดฝ่าฝืน ถือว่าเป็นความผิดต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice09.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 9

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 9
เรื่อง นโยบายต่างประเทศ
.....................................................................

ตามที่ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ยึดและควบคุมอำนาจการปกครองประเทศไว้แล้ว ตั้งแต่วันที่19 กันยายน พุทธศักราช 2549 นั้น

คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า

คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะยึดมั่นในหลักกฎบัตรสหประชาชาติ และองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ เพื่อผลประโยชน์ของชาติจะรักษาไว้ ซึ่งสิทธิและจะปฏิบัติตามพันธกรณีในสนธิสัญญาหรือข้อตกลงที่ทำไว้กับนานาประเทศ ภายใต้หลักเกณฑ์แห่งความเสมอภาคโดยเคร่งครัด

จะส่งเสริมและรักษาไว้ ซึ่งความสัมพันธ์อันดี ที่มีอยู่ สำหรับชาวต่างประเทศ คณะทูตานุทูต กงศุล สถานเอกอัคราชทูต และองค์การระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย จะได้รับการคุ้มครองจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice10.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 10

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 10
เรื่อง ขอความร่วมมือในการเสนอข่าว
.....................................................................

ตามที่ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ยึดอำนาจการปกครองไว้เรียบร้อยแล้ว นั้น

เพื่อให้เกิดความสามัคคีภายในชาติอันจะเป็นรากฐานในการแก้ไขวิกฤติ และฟื้นฟูประเทศชาติให้ลุล่วงไปได้ด้วยเร็ว คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

จึงขอความร่วมมือร่วมใจ มายังสื่อมวลชนทุกสำนัก ทุกประเภท ทุกแขนง ตลอดจนผู้ประกอบการสื่อมวลชนทุกราย และสื่อมวลชนทุกคน

ได้โปรดร่วมกันเสนอข่าวสาร ตามความเป็นจริง และเป็นไปในทางสร้างสรรค์เพื่อฟื้นฟูความสามัคคีภายในชาติ ทำให้ประเทศชาติกลับสู่ความสงบสุขโดยเร็วที่สุด

ประเทศชาติของเราได้บอบช้ำ เพราะความแตกแยก แตกความสามัคคีมากพอแล้ว จึงจำเป็นที่พี่น้องประชาชนชาวไทย ทุกคน จะได้ร่วมแรงร่วมใจกันฟื้นฟูชาติบ้านเมือง ฟื้นฟูความสามัคคี นำความสงบสุขกลับคืนประเทศชาติ ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเร็วที่สุด

คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความหวังอย่างแรงกล้าที่จะได้รับความร่วมมือจากทุกท่านอย่างพร้อมเพียงกัน

จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(ประกาศ เมื่อเวลา 10.52 น.)


ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice11.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 11

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 11
เรื่อง แต่งตั้งบุคคลสำคัญ ดำรงตำแหน่งในคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
.....................................................................

เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และควบคุมสถานการณ์ทั้งปวงอันอาจเกิดขึ้นจากผู้ไม่หวังดี ต่อชาติบ้านเมืองให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด จึงให้แต่งตั้ง บุคคลดำรงตำแหน่งในกองบัญชาการ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนี้พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์

1. พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็น ประธานที่ปรึกษาคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2. พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก เป็น หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็น รองหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คนที่ 1
4. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็น รองหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คนที่ 2
5. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็น รองหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คนที่ 3
6. พล.อ.วินัย ภัทธิยะกุล เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็น เลขาธิการคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(ประกาศ เมื่อเวลา 10.58 น.)

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice12.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 12

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 12
เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน
.....................................................................

เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สมควรปรับปรุง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 และให้มีผลใช้บังคับต่อไป คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีประกาศดังต่อไปนี้

1. ให้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 มีผลใช้บังคับต่อไป โดยให้งดการบังคับใช้บทบัญญัติในส่วนที่ 1 หมวด 1 จนกว่าจะมีการประกาศเป็นอย่างอื่น และให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 18 ก.ย. พ.ศ. 2549 พ้นจากตำแหน่ง
2. ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 18 ก.ย.พ.ศ. 2549 คงอยู่ในตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะมีการประกาศเป็นอย่างอื่น
3. การใดที่กำหนดให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน

ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice13.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 13

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 13
เรื่อง ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญบางฉบับมีผลใช้บังคับต่อไป
.....................................................................

เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง คณะปฏิรูปการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีประกาศดังต่อไปนี้

1. ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2541 มีผลใช้บังคับต่อไป
2. ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจหน้าที่ควบคุมและดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
3. ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจหน้าที่ออกประกาศให้ย่นหรือขยายระยะเวลาหรือกำหนดวิธีการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตามที่บัญญัติในพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2542 เพื่อให้เหมาะสมแก่การเลือกตั้งที่ค้างดำเนินการ หรือจำเป็นต้องดำเนินการต่อไปให้แล้วเสร็จ
4. ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกอบด้วย
1.นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการ
2. นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการ
3. นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการ
4. นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการ
5.นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการ

ทั้งนี้จนกว่าจะประกาศเป็นอย่างอื่น

ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice14.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 14

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 14
เรื่อง ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญบางฉบับมีผลบังคับใช้ต่อไป
.....................................................................

เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นไปอย่างต่อเนื่อง คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัติย์ทรงเป็นประมุข จึงมีคำสั่งให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา พ.ศ.2542 มีผลใช้บังคับต่อไปจนกว่าจะประกาศเป็นอย่างอื่น

ทั้งนี้จนกว่าจะประกาศเป็นอย่างอื่น

ประกาศ ณ วันที่ 21 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/special/notice/notice15.html
ประกาศคณะปฏิรูปฯ ฉบับที่ 15

ประกาศ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ฉบับที่ 15
เรื่อง ห้ามพรรคการเมืองประชุม หรือ ดำเนินกิจกรรมอื่นใดทางการเมือง
.....................................................................

เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ได้สิ้นสุดลง ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิไตยอันมีพระมหากษัติย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 แล้ว และได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิไตยอันมีพระมหากษัติย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2549 เรื่อง การห้ามชุมนุมทางการเมือง

แต่เพื่อให้การดำเนินการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ภายหลังที่สถานการณ์เข้า สู่ปกติแล้ว คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิไตยอันมีพระมหากษัติย์ทรงเป็นประมุข จึงมีประกาศดังต่อไปนี้

1. ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541 มีผลบังคับใช้ต่อไป เพื่อให้พรรคการเมืองยังคงสภาพอยู่ต่อไปได้
2. .เพื่อประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียนร้อย ห้ามมิให้พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วดำเนินการประชุม หรือ ดำเนินการใด ๆ ในทางการเมือง และการดำเนินการจัดตั้ง หรือจดทะเบียนพรรคการเมืองให้ระงับไว้เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ จนกว่าจะมีการประกาศเป็นอย่างอื่น

ทั้งนี้จนกว่าจะประกาศเป็นอย่างอื่น

ประกาศ ณ วันที่ 21 กันยายน พุทธศักราช 2549

ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข