Tuesday, March 28, 2006

ผิดกฏหมายเลือกตั้ง

อ้างถึง http://www.dopa.go.th/party/act11.htm
ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/2006/03/29/w001_90419.php?news_id=90419

นับตั้งแต่วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ ที่ได้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดวันเลือกตั้งใหม่อันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปให้มีขึ้นในวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๙ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่งของพรรคไทยรักไทย ได้กระทำผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
และสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๔๑ ดังต่อไปนี้

๑) พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กระทำผิดมาตรา ๔๗ ซึ่งบัญญัติว่า “ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย กระทำการใดๆ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง” มาตรานี้บัญญัติขึ้นมาเพื่อป้องกันมิให้มีการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อป้องกันรัฐบาลรักษาการมิให้ใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองของตนเอง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม นับตั้งแต่วันที่ได้มีการยุบสภา

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ใช้หน่วยงานราชการในต่างจังหวัดจัดกิจกรรมที่มีลักษณะเป็นการหาเสียงให้กับตนเอง โดยอ้างว่าเป็นการตรวจราชการ ทั้งยังมีการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการเดินทางไปหาเสียง ปรากฏหลักฐานเป็นข่าวทางโทรทัศน์หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อเป็นคุณแก่พรรคของตน

จึงเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายและผิดมาตรานี้อย่างชัดแจ้ง

๒) พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กระทำผิดมาตรา ๔๔ (๑) ซึ่งบัญญัติห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจะจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น หรือพรรคการเมืองใด ด้วยวิธีการ

“จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด” ในวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ หลังจากที่ได้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งใหม่แล้ว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้มอบเงินให้กับอาจารย์อาชีวะแห่งหนึ่ง ในงาน “พลังอาชีวะสร้างชาติ” ปรากฏหลักฐานเป็นภาพข่าวในหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙

การกระทำดังกล่าวนี้เป็นการ “ให้” และย่อมมีผลเป็นการ “จูงใจ” ให้อาจารย์เหล่านี้เลือกพรรคไทยรักไทย ซึ่ง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อในลำดับที่หนึ่ง การกระทำนี้จึงผิดมาตรา ๔๔ (๑) อย่างชัดแจ้ง

ซึ่งที่ผ่านๆ เพียงแต่ให้พวงหรีด หรือเงินช่วยงานศพ คณะกรรมการการเลือกตั้งก็ได้ดำเนินการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือที่เรียกกันว่าใบเหลือง-ใบแดง ผู้สมัครรับเลือกตั้งมาแล้วเป็นจำนวนมาก

๓) พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ยังมีการกระทำที่ส่อว่าผิดมาตรา ๔๔ (๒) คือ “ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน...วัด สถาบันการศึกษา...หรือสถาบันอื่นใด” ในการปราศรัยของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๔๙ ณ ท้องสนามหลวง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้สัญญาว่าจะให้ “ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด” แก่ประชาชนหลายอย่าง เช่น สัญญาว่าจะให้คอมพิวเตอร์แก่เด็กประถมหนึ่ง

“...ลูกท่านที่จะเข้าประถม ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๐ ...ผมจะให้ลูกประถมหนึ่งของท่านนี่ล่ะ ถือคอมพิวเตอร์ไปโรงเรียน เอาไหม...” ซึ่งไม่ใช่เรื่องนโยบายตามปกติธรรมดาของพรรคการเมือง แต่เป็นการ “สัญญาว่าจะให้” ซึ่ง “ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด” โดยไม่แน่ชัดว่าจะเอาเงินมาจากไหน เงินของตนเองหรือจากงบประมาณแผ่นดิน การหาเสียงลักษณะนี้จึงเข้าข่ายว่าเป็นการกระทำผิดมาตรา ๔๔ (๒)

เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ในฐานะที่คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้มีหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๔๔ และเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องป้องกันแก้ไขมิให้มีการกระทำผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ ซึ่งเป็นกติกาในการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายต้องเคารพ